วิธีการเลี้ยงเด็ก ไม่ให้เป็นเด็กดื้อด้าน
ในปัจจุบัน มีเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามา มีสิ้งเร้าเยอะ ทำให้เด็กในยุคนี้ ใจร้อน เอาแต่ใจ มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ซึ่งการที่เราจะ เลี้ยงเขาให้เป็นเด็กดี เชื่อฟัง และไม่เป็นเด็กดื้อด้าน นั้นก็ต้องเหนื่อยกันหน่อย แต่ก็ต้องพยายามปลูกฝักเขา ตั้งแต่เด็กๆ อย่าปล่อยให้ส่ายจนเกินไป ซึ่งมีวิธีการยังไงเรามาดูกัน
- ให้รู้จักคำว่ารอ หากเขาต้องการอะไร อย่าให้สิ่งที่เขาต้องการทันที ต้องให้เขารู้จักรอ อาจจะให้เขาช่วยทำอะไรก่อน หรือบอกเหตุผลไปก่อน ว่าทำไมถึงให้สิ่งที่เขาต้องการตอนนี้ไม่ได้
- ให้รู้จักความผิดหวังบ้าง การให้สิ่งที่เขาต้องการในทุกๆ ครั้ง เป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง ต้องสอนให้เขาอดทน รู้จักความผิดหวังบ้าง และให้เขาพยายามหาวิธีแก้ไข ในสิ่งที่เขาผิดหวัง ด้วยตัวเขาเอง โดยที่คุณพ่อ คุณแม่คอนให้กำลังใจอยู่ห่างๆ
- ให้รู้จักการแบ่งปัน เพราะการแบ่งปันจะช่วย ให้ลูกรู้จักการให้ ไม่ใช่เป็นผู้รับฝ่ายเดียว
- อย่ารักและปกป้องเขาจนเกินไป แต่ควรจะเปิดใจมองเขา และยอมรับข้อเสียของเขาบ้าง อะไรถูกก็ยินดี อะไรผิดก็ต้องลงโทษกันบ้าง ไม่งั้นเด็กจะนิสัยเสีย
สิ่งที่ครอบครัวต้องการ มากที่สุด คือการที่ลูกมีสุขภาพที่ดี เพราะ นั่นหมายถึงการเจริญเติบโต เป็นผู้ใหญ่ ที่มีคุณภาพ และไม่มีโรคภัยคุกคาม นอกจากนี้ การที่ลูกมีสุขภาพที่ดี จะส่งผลต่อ การเจริญเติบโตทางสติปัญญา ทำให้เด็กเรียนรู้ ได้อย่างรวดเร็ว มีสติปัญญาที่เฉียบแหลม
การเริ่มต้นในการดูแลสุขภาพของเด็ก
- การฝึกความมี อนามัยให้ลูกน้อย เช่น การแปลงฟัน การล้างมือก่อนการรับประทานอาหาร การทิ้งขยะลงในถังขยะ จะเป็นการปลูกฝัง ให้เด็กรู้จัก การรักษาความสะอาด จนเป็นนิสัย โดยในช่วงแรกๆ คุณพ่อคุณแม่ อาจจะช่วยเหลือบ้าง แต่เมื่อเด็กเริ่มคุ้นเคย กับการดูแลตัวเองแล้ว เขาก็จะทำเองจนเป็นนิสัย
- การให้ลูกน้อยออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬากลางแจ้ง ตามที่เด็กมีความทชื่นชอบ จะช่วยในการสร้างเสริมกล้ามเนื่อ ในแต่ละส่วนของเด็ก ให้มีการพัฒนาอย่างสมส่วนแล้ว ยังช่วยให้ระบบการทำงาน ภายในร่างกายของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้หัวใจ สูบฉีดทำให้ การไหลเวียนโลหิตในร่างกายดีขึ้น การออกกำลังกาย ยังทำให้ระบบย่อยอาหารของเด็กดีอีกด้วย
- การฝึกให้เด็ก รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อ โดยเฉพาะ มื้อเช้าต้องพยายาม ให้เด็กรับประทานให้ได้มากที่สุด เนื่องจากมื้อเช้า เป็นอาหารมื้อที่มีความสำคัญมากที่สุด เนื่องจากช่วงเช้า เป็นเวลาที่สมองต้องการสารอาหารในการเติม พลังงานให้แก่ร่างกาย เพื่อการเตรียมความพร้อมในการ ทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การฝึกให้เด็กรับประทานอาหาร จำพวกผักผลไม้ แทนการกินขนมและน้ำอัดลม
- ส่งเสริมการเล่น หรือการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ลูกน้องได้มี ประสบการณ์ ชีวิต โดยการมอบอิสระในการเรียนรู้ให้กับลูก เพื่อลูกจะได้เข้าสังคมร่วมกับผู้อื่นได้