อาการของผู้ป่วยที่มีเชื้อ ไวรัสตับอักเสบซี
โรคไวรัสตับอักเสบซี เป็นโรค ที่เพิ่งจะค้นพบ เมื่อไม่นานมานี้ จากข้อมูลและ ประวัติการรักษาของ โรงพยาบาล พบว่า โรคไวรัสตับอักเสบซี เป็นโรคที่สามารถ ทำให้เกิดการอักเสบของตับ ทั้งแบบการอักเสบของตับ ชนิดเฉียบพลัน และการอักเสบของตับ แบบเรื้อรัง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ เกิดเป็นตับแข็ง และโรคมะเร็ง ได้ถ้าไม่ได้รับ การรักษาที่ถูกต้อง
อาการของผู้ป่วย โรคไวรัสตับอักเสบซี
- ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่มีอาการ เหมือนคนปรกติทั่วไป ซึ่งมีเพียงร้อยละ 10 – 15 เท่านั้นที่มีอาการ จึงทำให้ยากต่อการวินิจฉัยโรค
- อาการตับอักเสบเฉียบพลัน จากไวรัสตับอักเสบซี จะคล้ายๆ กับการเป็นไข้หวัดใหญ่ มีไข้ ผู้ป่วยมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ รู้สึกร่างกายอ่อนเพลีย คลื่นไส้ บางครั้งก็จะอาเจียน เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลดลง และมีลักษณะตัวเหลือง ตาเหลือง
- อาการตับอักเสบเรื้อรัง จากไวรัสตับอักเสบซี ผู้ป่วยส่วนใหญ่ จะไม่มีอาการ แต่บางราย อาจจะมีอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง สมองไม่สั่งการ มีอาการมึนงง หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง จึงจะพบอาการตับแข็ง ระบบภูมิคุ้มกันผิดปรกติ ทำให้เกิดโรคไน โรคผิวหนัง เป็นต้น
- อาการตับแข็ง อาการของมะเร็งในตับ จากไวรัสตับอักเสบซี ผู้ป่วยใน ระยะแรกจะมีความผิดปรกติ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปรกติทั่วไป จนกระทั่งเมื่อสูญเสีย การทำงาน ของตับมากขึ้นเรื่อยๆ จึงจะเริ่มมีอาการ ซึ่งที่เห็นได้ชัดมีอยู่ 2 ชนิดได้แก่
- อาการที่ตับไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ ทำให้ระบบ การสร้างสารอาหาร พลังงานและการทำลายพิษ ผิดปรกติ จึงเป็นสาเหตุให้มีอาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ตาเหลือง ขาบวม ผิวคล้ำ สมองไม่สั่งการ ฯลฯ
- อาการที่เกิดจากพังผืดยึดรัดเนื้อตับ ผู้ป่วยจะมีอาการ อาเจียนเป็นเลือด ขับถ่ายมีสีดำ ม้ามโต ซีดเหลือง เกล็ดเลือดต่ำ มีเม็ดเลือดขาวต่ำกว่าปรกติ เป็นมะเร็งตับ
